ประกันรถยนต์โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ รถยนต์ กับประกันภาคสมัครใจ คือผู้ขับขี่สามารถเลือกซื้อได้ตามความสมัครใจไม่ได้ถูกบังคับตามกฏหมาย ซึ่งก็จะแบ่งออกเป็นประกันภัยชั้น 1 ประกันภัยชั้น 2 เป็นต้น ซึ่งประกันภาคสมัครใจที่เข้าใจกันโดยทั่วไป เป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อประกัน หรือผู้เอาประกันภัย และผู้ขายซึ่งก็คือบริษัทประกันภัย ราคาประกันรถยนต์นแต่ละประเภทก็จะแตกต่างไปตามความคุ้มครองว่ามีมากหรือน้อยตามกรมธรรม์ที่ได้ระบุไว้  ประกันภัยภาคสมัครใจแบ่งเป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ  1.ประกันรถยนต์ชั้น 1   ถือได้ว่าเป็นประกันที่ครอบคลุมมากที่สุด เพราะคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินของตัวผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมไปถึงยานพาหนะบนถนน และคนเดินบนทางเท้าด้วย ทั้งนี้ประกันรถยนต์สามารถเคลมรถได้โดยไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยชนเสา ชนฟุตบาด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการคุ้มครองในกรณีที่รถชน ไฟไหม้ และโจรกรรมอีกด้วย ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 จึงถือว่ามีความแพงกว่าประกันประเภทอื่นๆ   2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+   ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีลักษณะคล้ายคลึงกับประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับคนที่อยากทำประกันชั้น 1 แต่ติดเงื่อนไขที่รถมีอายุมากเกินเกณฑ์ที่บริษัทประกันกำหนดไว้ โดยเงื่อนไขที่แตกต่างจากประกันชั้น 1 คือ ต้องเป็นในกรณีที่เป็นความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น ราคาประกันรถยนต์จึงมีความย่อมเยาว์กว่า แต่ได้รับการคุ้มครองเกือบเทียบเท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะครอบคลุมในกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม และการโจรกรรมต่างๆด้วย  3. ประกันรถยนต์ชั้น 3+  ลักษณะการคุ้มครองคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 2+ โดยคุ้มครองในกรณีที่รถชนกัยรถ ยานพาหนะทางบกที่ชนกันเท่านั้น แต่ไม่คุ้มครองครอบคลุมในกรณีไฟไฟม้ น้ำท่วม โจรกรรมด้วย ราคาของประกันรถยนต์ชั้น 3+ จึงมีความย่อมเยาว์รองลงมา รถที่ไม่ได้ติดแก๊ส หรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไฟม้รถน้อย เช่น รถที่มักจอดอยู่กับบ้าน จึงอาจทำประกันชั้น 2+ และ 3+ แทนประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้  ข้อมูลเบื้องต้นที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ อาจช่วยให้เพื่อนๆทุกคนได้ลองเลือกประเภทประกันที่ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้รถของแต่ละท่าน ทั้งนี้เราอยากฝากให้ทุกคนอ่านกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนซื้อ และไม่ประมาทในการขับขี่กันนะคะ